ตั้งแต่ช่วงโควิครอบแรกที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว จำนวนร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ค้ารายเล็กเลือกใช้ online platform อย่าง Shopee และ Lazada บางรายเลือกใช้ Facebook shops สำหรับลูกค้ากลุ่มบริษัทและองค์กรขนาดใหญ่เลือกพัฒนาเว็บไซต์ขายของออนไลน์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มความเชื่อถือและสร้างตัวตนบนเว็บไซต์ในระยะยาว อีกทั้งยังจัดการฟังก์ชั่นต่างๆได้เองโดยไม่มีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ Shopee, Lazada และ Facebook shops
เดือนที่ผ่านมาเราได้จัดทำเว็บขายของออนไลน์สำหรับลูกค้าของเรา โดยลูกค้าเป้าหมายคือ ไทย ยุโรป และอเมริกา ลูกค้าของเราขายสินค้าทั้งปลีกและส่ง ดังนั้นเว็บไซต์จะมี 3 ภาษาด้วยกัน เราจึงมีไอเดียมาแชร์โพสสิ่งที่ควรรู้ก่อนเปิดร้านออนไลน์ให้ทุกคนกัน ไปกันเลยจ้า
สินค้าและบริการ
สินค้าหรือบริการที่คุณต้องการขายออนไลน์คืออะไร เลือกสินค้าและบริการจากสิ่งที่คุณถนัด มีความรู้ เช่น ขายผลไม้จากสวนคุณเอง ขายเครื่องสำอาง ขายอุปกรณ์กีฬา หรือเลือกจากความต้องการของตลาด ณ ตอนนั้น เช่น เจลล้างมือ ผ้าปิดจมูกกันไวรัส กันฝุ่น เป็นต้น นอกจากนี้คุณต้องการขายสินค้าแบบขายปลีกหรือขายส่ง คุณก็ต้องวางแผนไว้ก่อน
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคุณคือใคร เป็นกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มครอบครัวใหม่ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มรายได้ปานกลาง หากคุณรู้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน การทำเว็บไซต์และการตลาดก็จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ถูกต้อง เป็นต้น
ชื่อร้าน หรือ ชื่อเว็บไซต์
ชื่อร้านหรือชื่อเว็บไซต์ก็เหมือนชื่อสลากสินค้า ชื่อต้อง อ่านง่าย จำง่าย ติดหู คุณต้องคำนึงการค้นหาทางอินเตอร์เนตด้วย เนื่องจากปัจจุบันผู้คนใช้อินเตอร์เนตกันอย่างกว้างขวาง การที่คนจดจำชื่อร้านหรือชื่อเว็บไซต์คุณและพิมพ์ค้นหาได้ง่าย จะทำให้เพิ่มโอกาสทางการขายของคุณด้วย โอะ…คุณสามารถจดโดเมนหรือชื่อเว็บไซต์เป็นภาษาไทยได้ด้วยน่ะ คุณสามารถตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการจดทะเบียนและจดโดเมนไว้ก่อนได้ที่ HostAtom
เงินลงทุน
ต้นทุนการขายของออนไลน์ นอกจากสินค้าแล้ว ก็ยังมีค่าส่งสินค้า ค่าแพ็กสินค้า ค่าสลากสินค้า ค่าโฆษณา ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอินเตอร์เนต ค่าโทรศัพท์ ค่าจัดทำเว็บไซต์และค่าบำรุงรักษาเว็บไซต์ ค่าเช่าโดเมนและโฮสติ่ง ค่าเดินทางสำหรับทำธุรกิจ และค่าอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการทำร้านขายของออนไลน์ คุณควรวางแผนให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากู้หนี้ยืมสิ้นในภายหลัง หากคุณมีงานประจำอยู่แล้วก็ต้องวางแผนเรื่องการจัดสรรเวลาในการทำงานกับร้านขายของด้วย
ช่องทางการขายสินค้า
คุณต้องการขายสินค้าบนช่องทางไหนบ้าง ซึ่งก็สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ ช่องทางการขายสินค้าเช่น เว็บไซต์ของคุณเอง, facebook, Instagram, LINE, Shopee, Lazada เป็นต้น
แผนการตลาด
แผนการตลาด เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจ การตลาดที่ไม่ดีหรือล้มเหลว ธุรกิจคุณก็จะมีแต่แย่ลง สุดท้ายก็ไปไม่รอด แน่นอนคุณต้องมีการวางแผนทั้งเรื่องงบการตลาด ระยะเวลาทำการตลาดและการประเมินผลการตลาดเพื่อปรับปรุงแผนอยู่เสมอ
ช่องทางการส่งสินค้า
ปัจจุบันผู้ให้บริการส่งสินค้ามีมากมาย เช่น Kerry, Ninja Van, J&T express, ไปรษณีย์ไทย และอื่นๆอีกมากมาย ค่าบริการและการประกันสินค้าก็แตกต่างกัน คุณจึงต้องเลือกใช้บริการตามความเหมาะสมกับสินค้าและพื้นที่จัดส่ง
ช่องทางการชำระเงิน
ยิ่งเยอะยิ่งดีบอกเลย ลูกค้าต้องการความสะดวกและรวดเร็ว คุณก็ต้องการให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยความรวดเร็วเช่นกัน
ปรับเปลี่ยนการตลาดอยู่เสมอ
คุณควรประเมินสินค้าและบริการ และแผนการตลาดอยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงและเรียนรู้ลูกค้าของคุณ ยิ่งคุณเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากเท่าไร คุณก็จะเสนอขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น
สรุป
ทั้งหมดเป็นคำแนะนำสำหรับการเริ่มทำร้านขายของออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้าหรือบริการ คุณก็ขายออนไลน์ได้ เพียงแค่คุณต้องรู้ว่า คุณจะขายให้ใคร เสนอขายทางช่องทางไหนที่ทำให้ลูกค้าเป้าหมายคุณเห็น ประเมินยอดขายและรับฟัง feedback จากลูกค้า ปรับปรุงและพัฒนา สุดท้ายคุณจะรู้ว่า สิ่งที่คุณขายอยู่มันไปต่อได้ไหม ขอให้ทุกคนประสบผลสำเร็จจากใจผู้ที่ขายบริการทำเว็บไซต์มานานกว่า 10 ปีเช่นกัน