Shopping Cart Abandonment คือ อะไร
Shopping Abandoned Cart คือ อะไร อธิบายง่ายๆก็คือ ลูกค้าหยิบสินค้าลงตะกร้าแล้ว แต่ไม่ทำการสั่งซื้อ สินค้าก็ยังคงค้างอยู่ในตะกร้านั้นเอง มีหลายเหตุผลที่ลูกค้าออกจากหน้าเว็บไซต์โดยยังมีสินค้าค้างในตะกร้าอยู่
เหตุผลหลักที่ลูกค้าทิ้งตะกร้าก่อนสั่งซื้อ
ใช้เวลานานหรือสับสนในขั้นตอน Checkout process
ผู้เขียนเคยเจอมาเช่นกัน เป็น Shopping platform ขนาดใหญ่ของไทยซะด้วย แต่กระบวนการ checkout ยุ่งยาก หลายขั้นตอน การออกแบบโดย Focus ที่ลูกค้าก่อน สำคัญเสมอสำหรับงานเว็บไซต์หรืองานด้าน application จุดประสงค์ ต้องให้ผู้ใช้ทำงานได้รวดเร็วและข้อมูลถูกต้อง สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่สร้างด้วย WooCommerce plugin แล้ว มี plugin หลายตัวที่สามารถช่วยลดขั้นตอนการ Checkout process ได้ เช่น YITH WooCommerce One-Click Checkout plugin
บังคับให้ลูกค้าสร้าง account บนเว็บไซต์
ไม่ใช่ทุกคนจะสะดวกสร้าง Custom Account (username and password) และให้เว็บไซต์เก็บข้อมูลส่วนตัวไว้ และไม่ใช่ทุกคนจะถนัดเรื่องการใช้งานเว็บไซต์แบบนี้ เชื่อได้เลยว่า มีผู้ที่สนใจสินค้าแล้วพอเว็บไซต์บังคับให้ลงทะเบียนสร้าง Username และ Password ก็ปิดเว็บไซต์หนีไปเว็บคู่แข่งทันที
ระบบการชำระเงินที่ไม่ปลอดภัย
หากลูกค้าไม่เชื่อมั่นในเว็บไซต์คุณ (การออกแบบเว็บไซต์มีผลอย่างมากกับความเชื่อมั่น) หรือการรับชำระเงินไม่มีการการันตีรับผิดชอบหรือสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า แน่นอนลูกค้าก็ไม่ซื้อสินค้าของผ่านเว็บไซต์คุณ ยิ่งถ้าเว็บไซต์คุณไม่มี SSL certificate อีก หมดโอกาสขายสินค้าผ่าน Credit card หรือ PayPal หรือ Debit card ไปเลย นอกจากลูกค้าไม่ซื้อแล้ว Hacker ก็สามารถขโมยข้อมูลลูกค้าที่ทำการชำระเงินออนไลน์ไปจากเว็บคุณด้วย
ช่องทางการชำระเงินไม่หลากหลาย
คุณอาจช่องทางชำระเงินเพียงแค่โอนเงินเข้าบัญชี แต่ปัจจุบันลูกค้าใช้การชำระเงินผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น Shopee pay คุณก็ควรต้องรู้ก่อนว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร แล้วช่องทางการชำระเงินที่เหมาะสมควรมีอะไรบ้าง
ไม่เคยมีส่วนลด หรือคูปองเลย
การแข่งขันทางออนไลน์ที่หนักหน่วงช่วงนี้ หากร้านค้าไม่มีสิ่งจูงใจลูกค้าเลย ก็จะสู้กับคู่แข่งได้ยาก จัดโปรแต่ละเดือน ช่วยกระตุ้นยอดขายได้น่ะค่ะ
หลักการที่ช่วยลดการทิ้งตะกร้า
- แสดง cost ทุกอย่างให้ลูกค้าเห็นชัดเจน เช่น ในตะกร้า คุณต้องแสดงราคาสินค้าทุกชิ้น ราคารวม ค่าธรรมเนียม ค่าขนส่ง หรืออื่นๆที่ลูกค้าต้องจ่ายก่อนไป Checkout process แบบนี้ลูกค้าจะได้ไม่ตกใจ หากราคาสุดท้ายสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ในขั้นตอน Checkout ควรบอกว่า ถึงขั้นตอนไหนแล้ว และอีกกี่ขั้นตอนถึงจะซื้อสำเร็จ แน่นอนว่า ขั้นตอนควรมีให้น้อยไม่เกิน 2 หรือ 3 การแสดงขั้นตอนแบบนี้เป็นการจูงใจให้ผู้ซื้อทำให้จบขั้นตอนไวๆ
- ควรมี thumbnails สินค้าที่ checkout process ด้วย อย่าลืมว่า สมองรับรู้รูปภาพได้ดีกว่าตัวหนังสือ มีรูปสินค้าตลอดการ checkout มีผลจูงใจให้ผู้ซื้อทำการสั่งซื้อจนสำเร็จ
- ทำ navigation ระหว่างตะกร้ากับหน้าสินค้าให้สั้นที่สุด หมายความว่า ลูกค้าต้องหยิบสินค้าลงตะกร้าได้ไว และกลับไปช็อปต่อที่หน้าแสดงสินค้าได้ไวเช่นกัน อย่าลืมว่า พฤติกรรมผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ มีแนวโน้มในการคาดหวังที่จะเห็นข้อมูลที่ต้องการได้เร็ว เร็วคือเป็นหลักวินาที ไม่ใช่เป็นนาทีค่ะ
- หน้าเว็บไซต์ต้องโหลดไว เป็นหลักวินาที ไม่เกิน 3 วินาที
- หากลูกค้าไม่อยากลงทะเบียนกับเว็บไซต์ ก็ต้องให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ ที่เราเรียกกันทั่วไปว่า guest user
- มี live chat support ค่อยตอบคำถามตลอด 24 ชั่วโมง หรือทุกวัน ปัจจุบันมีบริการ live chat agents มากมายคอยบริการ 24 ชั่วโมง คุณสามารถติดต่อ live chat agent เหล่านั้นช่วยได้ ตัวอย่างเช่น Tawk.to
- มีโลโก้หรือเครื่องหมาย (trust symbols) เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการชำระเงินออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น shop24

สรุป
หากใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถเห็นช่องทางการเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้ การหาความรู้ทางอินเตอร์เน็ตและอ่านบทความที่หลากหลายเพื่อวิเคราะห์หาวิธีที่เหมาะสำหรับธุรกิจสำคัญมาก แต่หากคุณไม่มีเวลาพอ แนะนำให้หา expert digital marketing agencies มาช่วย
สำหรับร้านค้าหรือธุรกิจไหน ต้องการสร้างเว็บไซต์หรือเว็บขายของออนไลน์ของตัวเอง ทักมาได้เลยค่ะ